loader image

บริการด้านกฎหมาย

ในบรรดาบริษัทกฎหมาย กลุ่มของเราโดยรวมแล้วเป็นโซลูชันบริการแบบครบวงจรที่มีหลายหน่วยงานที่ประกอบกันเป็นแกนกลางของความสามารถที่ไม่เหมือนใคร

ทีมดำเนินคดีของเราผสมผสานประสบการณ์การเจรจาหลายพันชั่วโมงจากข้อพิพาททั้งหมดในศาลไทย ทีมงานของเรายังสามารถพึ่งพาแผนกต่าง ๆ ตั้งแต่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายการเงิน และฝ่ายบัญชี เพื่อแก้ต่างคดีของคุณตั้งแต่ศาลล่างไปจนถึงศาลอุทธรณ์ไปจนถึงศาลฎีกา

ทีมงานของเราทุกคนพูดได้สองภาษา พวกเขาสามารถพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้

เราเชื่อว่าหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยคุณในกระบวนการฟ้องร้องคือระดับการสื่อสารที่ดี

ในกรณีของคุณ ฝ่ายกฎหมายของเรายินดีให้คำปรึกษาฟรีหนึ่งชั่วโมงก่อนส่งใบเสนอราคา

ทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายของเรา

อาทิชาณี เรียนหิน

ทนายความ / หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย

ปภิญญา พิมพิสาร

ทนายความ
พื้นที่ปฏิบัติ

ข้อพิพาททางอาญา

ข้อพิพาทของผู้บริโภค

ข้อพิพาทด้านการบริหาร

ข้อพิพาทด้านแรงงานและการจ้างงาน

ทรัพย์สินทางปัญญา

บริการด้านอสังหาริมทรัพย์

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

การร่างสัญญา

เจตจำนงสุดท้าย

ที่ปรึกษากฎหมาย

หนังสือมอบอำนาจ

ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

คำถามเกี่ยวกับปัญหาการพิจารณาคดี? สอบถามผู้เชี่ยวชาญของเรา

เราต่อสู้เพื่อสิทธิของคุณ

เป็นธรรมดาที่ธุรกิจจะประสบปัญหาที่ต้องใช้วิธีการทางกฎหมายในการแก้ไข เช่น การผิดสัญญา การค้างชำระ เป็นต้น เมื่อเกิดข้อพิพาททางแพ่งขึ้น หากสัญญา หรือหนี้สินเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือสัญชาติของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนไทย หรือนิติบุคคล. อีกฝ่ายสามารถดำเนินการทางกฎหมายในประเทศไทยได้

ความรับผิดของกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไทย กรรมการของบริษัทคือตัวแทนของบริษัทในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท เช่น การทำสัญญาต่างๆ กับลูกค้า หากการกระทำใด ๆ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้น กรรมการอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งหรือทางอาญา กรรมการของบริษัทกระทำการใด ๆ ตามอำนาจหน้าที่ของตนโดยไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว กรรมการไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ของบริษัท เว้นแต่จะมีสัญญายอมรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมหรือในฐานะผู้ค้ำประกัน ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดต้องรับผิดในหนี้ของบริษัทเฉพาะมูลค่าหุ้นที่ไม่ได้ใช้

อย่างไรก็ตาม ตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. พ.ศ. 2551 กรณีเป็นการฟ้องร้องบริษัทแห่งหนึ่งโดยปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวดำเนินกิจการหรือจัดตั้งขึ้นโดยไม่สุจริต ใช้พฤติการณ์ หลอกลวงผู้บริโภค หรือยักยอก ทรัพย์สินของบริษัทเพื่อให้มีทุนเพียงพอชำระหนี้โจทก์หรือ ศาลอาจเรียกผู้ถือหุ้น กรรมการ หรือบุคคลที่ถูกยักยอกมาเป็นจำเลยร่วมได้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายหรือกฎหมายถือว่าเป็นผู้ถึงแก่ความตาย ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หรือความรับผิดที่มีอยู่ก่อนที่ผู้นั้นถึงแก่ความตายตกเป็นมรดกแก่ทายาทซึ่งต้องมีผู้จัดการมรดกเพื่อแบ่งปันมรดกแก่ทายาท

หากผู้ตายมีทรัพย์สินที่จดทะเบียนเป็นโฉนดที่ดิน, ห้องชุด, หนังสือรับรองการทำประโยชน์, น.ส.3, ทะเบียนรถ, บัญชีธนาคาร ทรัพย์สินเหล่านี้ในการจัดการมรดกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนทรัพย์สินเหล่านั้นจนกว่าศาลจะพิพากษา ได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้

  1. บุคคลบรรลุนิติภาวะ.
  2. บุคคลวิกลจริตหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
  3. บุคคลที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลาย

คำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกต้องยื่นต่อศาลที่ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในบริเวณศาลในขณะที่ถึงแก่ความตาย หากผู้ตายไม่มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต้องฟ้องต่อศาลที่มรดกอยู่ในบริเวณศาล ดังนั้นหากผู้ตายเป็นคนต่างด้าวที่เสียชีวิตในประเทศไทยและมีทรัพย์สินในประเทศไทยก็จำเป็นต้องร้องขอต่อศาลไทยเพื่อให้มีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อจัดการมรดกในประเทศไทย

เหตุฟ้องหย่าตามกฎหมายไทยมี 10 ประการ ดังนี้

  1. สามีได้อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นเช่นภริยาของตน หรือภริยามีชู้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
  2. คู่สมรสฝ่ายหนึ่งมีความผิด แม้ว่าการประพฤติผิดนั้นจะเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ หากเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง:
  3. ต้องละอายใจอย่างยิ่ง
  4. ถูกดูหมิ่นเกลียดชังหรือเพราะความเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วต่อไป หรือ
  5. เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บหรือปัญหาเกินควรโดยคำนึงถึงสภาพ ฐานะ และการอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยา ฝ่ายหลังอาจฟ้องหย่าได้
  6. คู่สมรสฝ่ายหนึ่งทำอันตรายหรือทรมานแก่ร่างกายหรือจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างร้ายแรง หรือดูหมิ่นบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องหย่าได้
  7. คู่สมรสฝ่ายหนึ่งร้างอีกฝ่ายหนึ่งเกินหนึ่งปี ฝ่ายหลังอาจฟ้องหย่าได้
  8. (4/1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดฐานที่อีกฝ่ายหนึ่งร่วมไม่ยินยอมหรือรู้เห็นและอยู่กินฉันสามีภริยา จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บหรือเดือดร้อนเกินกว่าเหตุฝ่ายหลังอาจฟ้องหย่าได้
  9. (4/2) สามีภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะไม่อาจอยู่กินร่วมกันอย่างสงบสุขเกินสามปีหรือแยกกันอยู่กินกันเกินสามปีตามคำสั่งศาล คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
  10. คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องคำพิพากษาให้สาบสูญหรือไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เกินกว่าสามปีและไม่ทราบว่าตนมีชีวิตอยู่หรือถึงแก่ความตาย
  11. คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เลี้ยงดูและสนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเหมาะสม หรือกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาจนถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรทั้งที่สภาพ ฐานะ และการอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยา เมื่อพิจารณาแล้วฝ่ายหลังอาจฟ้องหย่าได้
  12. คู่สมรสฝ่ายหนึ่งวิกลจริตติดต่อกันเกินสามปีและวิกลจริตดังกล่าวแทบจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องหย่าได้
  13. หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดพันธะแห่งความประพฤติดีที่ตนกระทำ อีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องหย่าได้
  14. หากคู่สมรสฝ่ายหนึ่งเป็นโรคติดต่อและอันตรายที่รักษาไม่หายและอาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ อีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องหย่าได้
  15. คู่สมรสฝ่ายหนึ่งมีร่างกายพิการจนไม่สามารถอยู่กินฉันสามีภริยากันได้ถาวร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

สถานการณ์ของคุณเป็นสาเหตุของการฟ้องหย่าตามกฎหมายไทยหรือไม่? เราอยากจะให้คำแนะนำแก่คุณ

คดีผู้บริโภค หมายถึง คดีระหว่างผู้บริโภคที่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการบริโภคสินค้าหรือบริการกับคดีแพ่งตามกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย เช่น

  1. คดีซื้อขายรถยนต์ บ้าน คอนโด ที่ดิน สินค้าอุปโภคบริโภค
  2. กรณีเช่าทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ บ้าน คอนโด สำนักงาน
  3. กรณีเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
  4. กรณีงานรับเหมา เช่น สร้างบ้าน ต่อเติมบ้านหรือคอนโดมิเนียม

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. พ.ศ. 2522 (พ.ศ. 2522)

“ซื้อ” หมายความรวมถึง เช่า เช่าซื้อ หรือได้มาด้วยวิธีใด ๆ เป็นเงินหรือมูลค่าอย่างอื่น

“การขาย” หมายความรวมถึง ปล่อย ขาย โดยเช่าซื้อ หรือจัดหาโดยวิธีใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือมูลค่าอื่น ๆ และให้หมายความรวมถึงเสนอหรือเชิญชวนให้กระทำการดังกล่าวด้วย

“สินค้า” หมายความว่า สิ่งของที่ผลิตหรือมีไว้เพื่อขาย

“บริการ” หมายความว่า การรับทำงานให้สำเร็จ การให้สิทธิ หรือการอนุญาตให้ใช้หรือให้ผลประโยชน์ในทรัพย์สินหรือกิจการใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรืออย่างอื่น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการจ้างเหมาบริการตามกฎหมายแรงงาน

“ผลิต” หมายความว่า ผลิต ผสม เตรียม ประกอบ ประดิษฐ์ หรือทำให้เสียสภาพ และหมายความรวมถึง แปรสภาพ ดัดแปลง คัดเลือก หรือแบ่งบรรจุ

“ผู้บริโภค” หมายความว่า ผู้ซื้อหรือได้รับบริการจากนักธุรกิจหรือผู้ซึ่งนักธุรกิจเสนอหรือเชิญชวนให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ และหมายความรวมถึงผู้ใช้สินค้าหรือผู้ที่ได้รับบริการจากนักธุรกิจโดยถูกต้อง แม้จะไม่ได้เป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนก็ตาม

“นักธุรกิจ” หมายความว่า ผู้ขาย ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าซึ่งขายสินค้าหรือผู้ซื้อสินค้าเพื่อจำหน่ายต่อ ผู้ให้บริการ และหมายความรวมถึงผู้ประกอบกิจการโฆษณา

คดีแรงงาน คือ คดีที่มีความขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือเกี่ยวกับสิทธิของนายจ้างและลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ ความขัดแย้งดังกล่าวควรได้รับการพิจารณาโดยผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องแรงงานร่วมกับผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง

เมื่อเกิดข้อพิพาทแรงงาน โจทก์จะฟ้องต่อศาลแรงงานไทยภายในเขตท้องที่ที่ลูกจ้างทำงานอยู่หรือที่โจทก์หรือจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่

ภาคอุตสาหกรรม

การก่อสร้าง

รัฐบาล

การฟ้องร้องและทนายความ

ขององค์กร

ดูแลสุขภาพ

การผลิตและอุตสาหกรรม

การศึกษา

ทรัพย์สินทางปัญญา

องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ

ระหว่างประเทศ

อสังหาริมทรัพย์

บริการทางการเงิน

แรงงานและการจ้างงาน

ค้าปลีก

อาหารและการเกษตร

วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต

กีฬาและความบันเทิง

ขอทำงานร่วมกัน

เราทำงานเป็นทีมเดียวกับบริษัทชั้นนำในตลาดทั่วโลก และให้คำแนะนำที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้าของเรา

ATa Outsourcing